รีวิว Oculus Rift DK2 ของจริง ครั้งแรกในเมืองไทย โลกเสมือนจริงที่ใครๆ ก็เล่นได้

2

หลังจากดูหนังไซไฟมาหลายเรื่อง ห้วข้อเกี่ยวกับเวอร์ช่วลเรียลลิตี้ก็พูดถึงกันมาหลายปี ปัจจุบันนี้ดูเหมือนจะใกล้ความจริงขึ้นเรื่อยๆ แล้วครับ เมื่อเทคโนโลยีปัจจุบันสามารถสร้างภาพและลวงสมองของเราให้เชื่อว่าภาพในจอคอมพิวเตอร์นั้นเป็น 3 มิติที่มีใกล้ ไกล ลึก ตื้น และสามารถปฏิสัมพันธ์กับเราได้เหมือนเราอยู่ในจอนั้นจริงๆ

ถ้าพูดถึงเรื่องนี้ ก็คงต้องยกให้หัวหอกทางด้านเทคโนโลยีเสมือนจริง (ขอเรียกสั้นๆ ว่า VR) สำหรับบริษัท Oculus VR ผู้พัฒนา Oculus Rift อุปกรณ์สวมใส่ศีรษะแล้วทำให้ผู้ที่สวมมองเห็นภาพเสมือนจริง Oculus VR มีชื่อเสียงมาพักหนึ่งแล้วจากการเปิดตัว Oculus Rift รุ่นแรก และยิ่งทำให้บริษัทนี้ถูกจับตามากขึ้นไปอีกเมื่อเฟซบุ๊กเข้ามาซื้อกิจการเป็นมูลค่าสูงถึง 2 พันล้านเหรียญ ทำให้โครงการพัฒนาก้าวหน้าขึ้นไปมาก ล่าสุด Oculus VR ได้เปิดให้สั่งจองรุ่น DK2 หรือ Development Kit 2 สำหรับให้นักพัฒนาสั่งซื้อ ถึงแม้จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ยังอยู่ในช่วงของการพัฒนาแต่รุ่น DK2 นี้ก็ถือว่ามีคุณสมบัติและประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างมากจากรุ่นแรกครับ

1

สเปกโดยละเอียดของ Oculus Rift DK2 เป็นดังนี้

Resolution 960 x 1080 per eye
Refresh rate 75 Hz, 72 Hz, 60 Hz
Persistence 2 ms, 3 ms, full
Viewing Optics 100° Field of View (nominal)
Cable 10′ (detachable)
HDMI HDMI 1.4b
USB Device USB 2.0
USB Host USB 2.0 (requires DC Power Adapter)
Positional Tracker USB  USB 2.0
Sensors Gyroscope, Accelerometer, Magnetometer
Update Rate 1000 Hz
Sensors Near Infrared CMOS Sensor
Update Rate 60 Hz
Weight 0.97 lbs (without cable)

รูปร่างและการออกแบบ

ในรุ่น DK2 นี้ปรับปรุงให้สวมใส่สบาย มีน้ำหนักเบา เฉพาะตัวแว่นหนักประมาณ 440 กรัม ไม่รวมสายสัญญาณ หากเสียบสัญญาณด้วย ก็หนักขึ้นมาอีกนิดหน่อย โดยรวมแล้วก็สวมใส่สบายดีครับ โดยเฉพาะด้านในมีบุด้วยฟองน้ำและหุ้มด้วยผ้าอีกที สายรัดเป็นยางยืดปรับความยาวได้ โดยสายรัดจะรัดสองตำแหน่งคือด้านบนและด้านข้าง จึงไม่ต้องกลัวว่าจะหล่นหรือขยับเวลาหันหัวซ้ายขวาแรงๆ

3

ด้านหน้าของแว่นมีช่องต่อสายสัญญาณ 2 เส้น ปุ่มเปิด/ปิด ไฟแสดงการทำงาน และช่องเสียบหูฟังกับพอร์ตยูเอสบี

4

ด้านข้างของแว่นทั้ง 2 ฝั่ง จะมีปุ่มปรับระยะความห่างระหว่างเลนส์กับจอภาพ หากใส่แล้วพบว่าภาพไม่ชัด สายตาโฟกัสไม่ได้ ก็สามารถปรับที่ปุ่มนี้ได้ โดยต้องปรับให้เท่ากันทั้งสองฝั่งนะครับ

5

DK2 มีเลนส์ให้เลือก 2 แบบ แบบ A คือเลนส์นูนปกติ สำหรับคนสายตาทั่วไป สั้น ยาว ไม่มาก กับอีกแบบคือ B เลนส์นูนพิเศษ สำหรับคนที่สายตาสั้นมาก ตัวผมเองสายตาสั้นประมาณ 170 แถมเอียง แต่ใช้เลนส์ A แล้วก็ชัดเจนดีครับ

6

น้ำหนักของแว่นพร้อมสายสัญญาณอยู่ที่  530 กรัม ก็จัดว่าเบาพอสมควรครับ

7

หลักการทำงานถ้าดูจากชิ้นส่วนทั้งหมดนี้ก็พอจะเดาได้ง่ายๆ ครับ จอแแสดงผลขนาดเล็กจะแสดงผลแบบ 2 จอซ้ายขวาตามระยะห่างสายตา เมื่อมองผ่านเลนส์ที่กะระยะมาอย่างดีก็จะทำให้ภาพดูเหมือนสามมิติขึ้นมาได้

ใส่ความเห็น